Wednesday, October 6, 2010

สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดปราจีนบุรี สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ

อุทยานแห่งชาติทับลาน

ครอบคลุมพื้นที่ของตำบลบุพราหมณ์ อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี และอำเภอปักธงชัย อำเภอ วังน้ำเขียว อำเภอครบุรี อำเภอเสิงสาง จังหวัดนครราชสีมา มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 2,240ตารางกิโลเมตร หรือ 1,400,000ไร่ ประกาศเป็นอุทยานฯ เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2524 ภายในอุทยานฯ มีสถานที่น่าสนใจ ได้แก่

ป่าลานและสวนพักผ่อนหย่อนใจ อยู่บริเวณที่ทำการอุทยานฯ เป็นป่าลานที่ขึ้นเองตามธรรมชาติแห่งสุดท้ายของประเทศไทย มีต้นตาลเป็นพันธุ์ไม้ดึกดำบรรพ์ใบใหญ่เป็นรูปพัดคล้ายใบลาน จะออกดอกเมื่อต้นมีอายุ 20ปีขึ้นไป ช่วงฤดูออกดอกในราวเดือนเมษายนถึงเดือนมิถุนายน ดอกมีสีเหลืองสดสวยงามมาก หลังออกดอกแล้วต้นลานนั้นจะตายไป สวนพักผ่อนหย่อนใจ อยู่ติดกับที่ทำการอุทยานฯ พื้นที่ประมาณ 20 ไร่ ประกอบด้วยต้นลานและพันธุ์ไม้นานาชนิด ภายในร่มรื่น มีซุ้มสำหรับนั่งพักผ่อน กลางสวนมีสระน้ำขนาดใหญ่นอกจากดงลานแล้ว ภายในพื้นที่อุทยานฯ ยังปกคลุมด้วยป่าเต็งรังและป่าดงดิบที่อุดมสมบูรณ์ด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า และนกชนิดต่าง ๆ

น้ำตกทับลานหรือน้ำตกเหวนกกก อยู่ห่างจากบ้านทับลานประมาณ 7กิโลเมตร เดินเท้าอีกประมาณ 1กิโลเมตร จึงจะถึงตัวน้ำตก เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่สวยงาม มีความสูง 20 เมตร มีน้ำไหลเฉพาะในช่วงฤดูฝนเท่านั้น

อ่างเก็บน้ำทับลาน อยู่ห่างจากบ้านทับลานประมาณ 1กิโลเมตร เป็นอ่างเก็บน้ำที่สวยงามล้อมรอบไปด้วยภูเขา อากาศเย็นสบายเหมาะแก่การพักผ่อน

หาดชมตะวัน อยู่ห่างจากตัวอำเภอเสิงสาง ประมาณ 17กิโลเมตร เป็นชายหาดริมอ่างเก็บน้ำของเขื่อนลำปลายมาศ หาดยาวประมาณ 300เมตร บริเวณหาดทรายสามารถเล่นน้ำได้ มีกิจกรรมล่องเรือนำเที่ยวชมทิวทัศน์รอบเขื่อนไป-กลับ นั่งได้ 10 คน ราคา 500 บาท และล่องแพ นั่งได้ 40 คน ราคา 2,000 บาท สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านราษฏร์ โทร. 08 1967 1377 เหมาะสำหรับที่จะท่องเที่ยวแบบครอบครัว แบบหมู่คณะ ทางอุทยานแห่งชาติมีบ้านพักรับรอง 1 หลัง ราคา 1,500 บาท มีเต็นท์ให้เช่า พักได้ 2-5 คน ราคา 250-500 บาท ในกรณีที่นำเต็นท์มาเองเสียค่าพื้นที่กางเต็นท์ 30 บาท/คน/คืน

น้ำตกบ่อทอง น้ำตกบ่อทอง อยู่ในท้องที่ตำบลบุพราหมณ์ อำเภอนาดี ห่างจากเส้นทางหลวงหมายเลข 304 ประมาณ 6 กิโลเมตร และต้องเดินเท้าเข้าไปอีกประมาณ 500 เมตร เป็นน้ำตกที่มีความสวยงามมากในช่วงฤดูฝน ประมาณเดือนกรกฎาคม-เดือนกันยายนน้ำจะค่อนข้างน้อย

น้ำตกห้วยคำภู อยู่ในท้องที่ตำบลแก่งดินสอ อำเภอนาดี ประมาณ 20กิโลเมตร ลักษณะเป็นลำธารที่มีน้ำไหลลดหลั่นลงมาเป็นชั้น ๆ ด้านล่างเป็นฝายน้ำล้นเหมาะสำหรับเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ

การเดินทาง แยกจากทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 304 บริเวณกิโลเมตรที่ 92 เข้าไปประมาณ 20 กิโลเมตร

ลำแปรง อยู่ห่างจากอำเภอครบุรี ประมาณ 35กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ มีสัตว์ป่านานาชนิด ดูนก สถานที่พัก ทางอุทยานฯ มีเต็นท์ให้เช่า พักได้ 2-5 คน ราคา 250-500 บาท ในกรณีที่นำเต็นท์มาเองเสียค่าพื้นที่กางเต็นท์ 30 บาท/คน/คืน การเดินทาง สามารถไปทางอุทยานแห่งชาติปางสีดาได้

น้ำตกห้วยใหญ่ อยู่ทางทิศตะวันตกของอุทยานฯ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่มีความสวยงาม มีความสูง ประมาณ 50 เมตร กว้าง 30 เมตร ไหลแผ่กว้างเป็นม่านน้ำตก มีน้ำไหลตลอดปี แต่ไม่มีแอ่งน้ำให้เล่น การเดินทาง แยกจากทางหลวงหมายเลข 304 ตรงหลักกิโลเมตรที่ 79 เข้าไปอีก 6 กิโลเมตร อยู่ในเขตอำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา ในหน้าแล้งนำรถยนต์เข้าได้เกือบถึงตัวน้ำตก

น้ำตกสวนห้อม ห้วยขมิ้น ห้วยใหญ่ใต้ อยู่ในท้องที่ตำบลวังน้ำเขียว อำเภอวังน้ำเขียว จังหวันครราชสีมา ห่างจากถนนสาย 304ประมาณ 6กิโลเมตร น้ำตกมีลักษณะเป็นหน้าผา สูงประมาณ 50เมตร กว้างประมาณ 30เมตร น้ำตกมีความสวยงามมากในฤดูฝนประมาณเดือนกรกฎาคม-กันยายน ในฤดูแล้งน้ำจะค่อนข้างน้อย บริเวณใกล้เคียงน้ำตกทางอุทยานแห่งชาติทับลาน ได้จัดสถานที่กางเต็นท์อยู่บนเนินเขาไว้บริการนักท่องเที่ยว ในกรณีที่นำเต็นท์มาเองเสียค่าพื้นที่กางเต็นท์ 30 บาท/คน/คืน เต็นท์ให้เช่า พักได้ 2-5 คน ราคา 250-500 บาท บ้านพักรับรอง 1หลัง ราคา 1,500 บาท จากจุดกางเต็นท์นี้สามารถมองเห็นน้ำตก ทิวทัศน์ที่สวยงามของอุทยานแห่งชาติได้

เขื่อนลำมูลบน อยู่ในเขตอำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา เป็นเขื่อนดินสูง 30เมตร และเป็นต้นน้ำของแม่น้ำมูลที่เกิดจากผืนป่าทับลานบนสันเขื่อนมองเห็น ทิวทัศน์สวยงามของอ่างเก็บน้ำ ได้มีการพัฒนาบริเวณของเขื่อนเป็นแหล่งท่องเที่ยวทำเป็นหาดบริเวณท้ายเขื่อน เรียกว่า หาดจอมทอง เหมาะสำหรับเป็นที่พักผ่อน นั่งตากอากาศ ลงเล่นน้ำ ล่องแพ และขึ้นไปชมทิวทัศน์บนเขาจอมทอง

สถานที่พัก อุทยานฯ มีบ้านพักไว้บริการนักท่องเที่ยว จำนวน 3 หลัง ราคา 1,500 บาท มีเต็นท์ไว้บริการนักท่องเที่ยว พักได้ 2-5 คน ราคา 250-500 บาท หรือจะนำเต็นท์ไปเองโดยเสียค่าพื้นที่คนละ 30บาท/คืน สอบถามรายละเอียดได้ที่ อุทยานแห่งชาติทับลาน 520หมู่ 1ตำบลบุพราหมณ์ อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี 25220

โทร. 0 3721 9408 หรือ ที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรุงเทพฯ โทร. 0 2562 0760 หรือ www.dnp.go.th

การเดินทาง รถยนต์ อุทยานฯ อยู่ริมเส้นทางหลวงหมายเลข 304ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 197จากสี่แยกอำเภอกบินทร์บุรีใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 304สายอำเภอกบินทร์บุรี-นครราชสีมา ระยะทางประมาณ 32กิโลเมตร (ห่างจากจังหวัดปราจีนบุรี ประมาณ 90กิโลเมตร และห่างจากจังหวัดนครราชสีมา ประมาณ 107 กิโลเมตร)รถประจำทาง จากกรุงเทพฯ ขึ้นรถโดยสารที่สถานีขนส่งหมอชิต ถนนกำแพงเพชร 2สายกรุงเทพฯ-กบินทร์บุรี ลงที่กบินทร์บุรี จากนั้นให้ต่อรถสายกบินทร์บุรี-โคราช ไปอีก 32 กิโลเมตร จะถึงที่ทำการอุทยานฯ ซึ่งอยู่ติดกับถนนใหญ่



น้ำตกธารทิพย์

ตั้งอยู่ที่บ้านเนินหินตั้ง ตำบลหนองแก้ว เป็นธารน้ำที่ไหลผ่านชั้นหินต่างระดับ บางช่วงไหลผ่านลานหินบริเวณกว้าง บางช่วงเป็นแอ่งน้ำลึก สามารถลงเล่นน้ำได้ มีลานหินสำหรับนั่งพักผ่อน ฝั่งซ้ายของลำธารลักษณะค่อนข้างสูงชัน สภาพโดยทั่วไปยังเป็นป่าที่คงความอุดมสมบูรณ์ตามธรรมชาติ บรรยากาศร่มรื่น เหมาะเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจเป็นอย่างดี

การเดินทาง จากตัวเมืองปราจีนบุรีไปตามทางถนนสายปราจีนบุรี-ประจันตคาม เส้นทางหลวงหมายเลข 3452 ระยะทางประมาณ 16 กิโลเมตร จากนั้นไปตามทางหลวงหมายเลข 33 จนถึงสี่แยกประจันตคาม หรือ จะใช้เส้นทางสี่แยกเนินหอมแล้วเลี้ยวขวาไปตามทางหลวงหมายเลข 33 จนถึงสี่แยกประจันตคาม จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าถนน รพช. ตรงไปจนถึงบริเวณกิโลเมตรที่ 9 จะเห็นป้ายน้ำตกธารทิพย์ และเข้าไปอีกประมาณ 9 กิโลเมตร



น้ำตกเขาอีโต้

ตั้งอยู่ที่ ตำบลบ้านพระ น้ำตกเขาอีโต้เป็นธารน้ำที่ไหลผ่านโขดหินน้อยใหญ่ลดหลั่นเป็นชั้นๆ ความสูงไม่มากนัก สภาพบริเวณโดยรอบเป็นป่าโปร่ง มีน้ำมากเฉพาะในช่วงฤดูฝน การเดินทาง ใช้เส้นทางเดียวกับอ่างเก็บน้ำจักรพงษ์ แต่อยู่เลยไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร

Tuesday, October 5, 2010

สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดปราจีนบุรี สถานที่สำคัญทางศาสนา

วัดแก้วพิจิตร

ตั้งอยู่ริมฝั่งด้านขวาของแม่น้ำบางปะกง ถนนแก้วพิจิตร ตำบลหน้าเมือง ในเขตเทศบาลเมืองปราจีนบุรี ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศตะวันออกประมาณ 2กิโลเมตร เป็นวัดนิกายธรรมยุติวัดแรกของจังหวัดปราจีนบุรี สร้างเมื่อปี พ.ศ.2422โดยเศรษฐีนีใจบุญชาวปราจีนบุรีชื่อนางประมูล โภคา (แก้ว ประสังสิต)ภรรยาของขุนประมูลภักดี ต่อมาในปี พ.ศ. 2461 เจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม อภัยวงศ์) ได้สร้างพระอุโบสถหลังใหม่เพื่อทดแทนหลังเก่าที่ชำรุดผุพัง จึงมีลักษณะทางสถาปัตยกรรมและลวดลายประดับอาคารผสมผสานระหว่างศิลปะไทย จีน ยุโรปและเขมร พระประธานสร้างเมื่อปี พ.ศ.2462 โดยเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ได้รับพระราชทานนามจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวว่า หลวงพ่ออภัยวงศ์ หรือ หลวงพ่ออภัย เพื่อเป็นเกียรติแก่ท่านเจ้าพระยาอภัยภูเบศรผู้สร้าง

ภายในพระอุโบสถมีภาพวาดบนแผ่นผ้าเกี่ยวกับเรื่องราวในพระพุทธ ศาสนา เช่น ทศชาติชาดก มารผจญ วาดโดยช่างหลวงในรัชกาลที่ 6 ฝาผนังด้านนอกพระอุโบสถมีภาพปูนปั้นเรื่องรามเกียรติ์ ด้วยพระอัฉริยภาพของเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ท่านได้สร้างปริศนาธรรมแทรกไว้ตามที่ต่าง ๆ เช่น นาฬิกาที่ไม่ยอมเที่ยงอยู่ที่ซุ้มประตูเรือนแก้ว สร้างปริศนาด้านการปกครอง เช่น รูปสิงห์โตตัวผู้เพียงตัวเดียวไว้ที่บานหน้าต่าง ด้านหน้าพระอุโบสถมี อาคารเรียนหนังสือไทย นักธรรมบาลีเป็นอาคารคอนกรีต รูปสถูปโดม ศิลปะกรีกหรือโรมันอยู่หลังหนึ่ง

นอกจากนั้นภายในวัดแก้วพิจิตรยังมีหอพระไตรปิฎกและศาลาตรีมุข ที่ท่าน้ำ บรรยากาศภายในวัดร่มรื่น เปิดเวลา 08.30-17.00 น.

สอบถามรายละเอียด โทร. 0 3721 2795, 08 1481 1740, 08 1650 0327




ค้างคาวแม่ไก่วัดบางกระเบา

วัดบางกระเบาตั้งอยู่บนถนนสายบ้านสร้าง-บางแตน ตำบลบางกระเบา ห่างจากที่ว่าการอำเภอบ้านสร้างประมาณ 6 กิโลเมตร เป็นวัดของพระเกจิอาจารย์ชื่อเสียงโด่งดังคือ หลวงพ่อจาด ภายในบริเวณวัดบางกระเบา จะมีค้างคาวแม่ไก่จำนวนนับพันตัวอาศัยอยู่ตามต้นไม้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0 3727 1475






หลวงพ่อทวารวดี

ปัจจุบันเก็บรักษาไว้ที่วิหารหน้าที่ว่าการอำเภอศรีมโหสถ เป็นพระพุทธรูปประทับยืนปางประทานธรรมสร้างจากหินทรายสีเขียวขนาดสูง 1.63 เมตร อายุประมาณพุทธศตวรรษที่ 12-14 ขุดพบในนิคมโรคเรื้อน โรงพยาบาลคามิโลทางทิศใต้นอกเมืองศรีมโหสถ

Sunday, October 3, 2010

ข้อมูลจังหวัดปราจีนบุรี



จังหวัด ปราจีนบุรีตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของภาคกลาง เป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่มีทรัพยากรในด้านการท่องเที่ยวมากมายและหลากหลายรูป แบบ โดยเฉพาะผืนป่ามรดกโลกของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และอุทยานแห่งชาติทับลาน ที่นับเป็นสมบัติล้ำค่าในด้านของทรัพยากรธรรมชาติ ทั้งของประเทศและของโลก

เดิมปราจีนบุรีเป็นจังหวัดใหญ่ มีพื้นที่กว้างขวางเป็นอันดับ 6 ของประเทศ แต่ภายหลังได้มีการแยกจังหวัดออกจากมณฑลปราจิณ ตั้งเป็นจังหวัดนครนายกและฉะเชิงเทรา และในปี พ.ศ. 2536 ก็ได้มีพระราชบัญญัติแยกพื้นที่บางอำเภอออกจากจังหวัดปราจีนบุรีอีกครั้ง แล้วตั้งเป็นจังหวัดสระแก้ว จังหวัดปราจีนบุรีจึงมีขนาดเท่ากับในปัจจุบันนับแต่นั้นมา

จังหวัดปราจีนบุรีมีเนื้อที่ประมาณ 4,762 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 3,054,449 ไร่ จัดเป็นจังหวัดที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 45 ของประเทศไทย สภาพพื้นที่แบ่งเป็น 2 ลักษณะ คือ เขตที่ราบสูงทางตอนบนของจังหวัด ติดเทือกเขาดงพญาเย็น บริเวณรอยต่อของจังหวัดนครนายกและจังหวัดนครราชสีมา มีลักษณะเป็นที่ราบสูงคล้ายภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มียอดเขาสูง 1,326 เมตร พื้นที่ส่วนมากเป็นป่าทึบและเป็นแหล่งกำเนิดต้นน้ำหลายสาย และเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำทางตอนล่าง มีแม่น้ำสายสำคัญ คือ แม่น้ำบางปะกง ซึ่งเกิดจากแควหนุมานและแควพระปรง ไหลมาบรรจบกันที่อำเภอกบินทร์บุรี ผ่านอำเภอศรีมหาโพธิ อำเภอประจันตคาม อำเภอเมืองปราจีนบุรี อำเภอบ้านสร้าง แล้วไหลเข้าสู่จังหวัดฉะเชิงเทรา บริเวณแถบนี้เหมาะแก่การเพาะปลูก โดยเฉพาะการทำสวนผลไม้

บริเวณที่ตั้งของจังหวัดปราจีนบุรีในปัจจุบัน พบว่ามีการตั้งถิ่นฐานของชุมชนสมัยโบราณตั้งแต่เมื่อประมาณ 2,000–2,500 ปี มาแล้ว ซึ่งตรงกับสมัยก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลาย และมีอารยธรรมเจริญรุ่งเรืองตั้งแต่สมัยทวารวดีต่อเนื่องมาจนถึงสมัยลพบุรี ดังปรากฏหลักฐานเป็นซากเมืองโบราณที่เรียกว่า “เมืองศรีมโหสถ” ที่ตำบลโคกปีบ อำเภอศรีมโหสถ และทางด้านทิศตะวันออกของเมืองศรีมโหสถ บริเวณบ้านโคกขวาง อำเภอศรีมหาโพธิ ยังพบชุมชนโบราณอายุร่วมสมัยเดียวกันกับเมืองศรีมโหสถ บริเวณซากเมืองโบราณเหล่านี้มีซากโบราณสถานที่ใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาและ พบโบราณวัตถุต่างๆ ได้แก่ พระพุทธรูป เทวรูป เครื่องปั้นดินเผา เครื่องมือเครื่องใช้ประเภทสำริด กระจัดกระจายอยู่ทั่วไป

ต่อมาศูนย์ กลางความเจริญได้ย้ายมาอยู่ริมฝั่งแม่น้ำบางปะกงเช่นในปัจจุบัน มีชุมชนหนาแน่นจนเกิดเป็นเมืองขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา เรียกว่า “เมืองปราจีน” และในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้นเรียกว่า “เมืองปราจิณ” หรือ “มณฑลปราจิณ” ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โปรดให้จัดระเบียบการปกครองแผ่นดินตามแบบต่างประเทศ มณฑลปราจิณถูกยุบเลิก คงมีฐานะเป็นเพียงหัวเมืองเมืองหนึ่ง ต่อมาโปรดให้เปลี่ยนคำว่า “เมือง” เป็น “จังหวัด” จึงมีชื่อเรียกใหม่ว่า “จังหวัดปราจีนบุรี”

ปัจจุบัน ปราจีนบุรีแบ่งการปกครองออกเป็น 7 อำเภอ คือ อำเภอเมืองปราจีนบุรี อำเภอบ้านสร้าง อำเภอประจันตคาม อำเภอศรีมโหสถ อำเภอศรีมหาโพธิ อำเภอกบินทร์บุรี และอำเภอนาดี